อย่างหรู หลุมหลบภัยระเบิดนิวเคลียร์ ในสหรัฐฯ

หลุมหลบภัยที่เห็นอยู่นี้ อยู่ในเมือง Savannah รัฐ Georgia สหรัฐอเมริกาค่ะ ในอดีตเคยเป็นฐานทัพของสหรัฐฯมาก่อน สร้างขึ้นตั้งแต่สมัยสงครามเย็นในช่วงปี พ.ศ.2512 ก่อนจะได้รับการบูรณะปรับปรุง ในปี 2555 ให้กลายเป็นหลุมหลบภัยหรูหรา ราคา 17.5 ล้านเหรียญ
 

หลุมหลบภัยระเบิดนิวเคลียร์ตั้งอยู่ในพื้นที่ขนาด 32 เอเคอร์และมีพื้นที่ใช้สอยมากกว่า 14,000 ฟุต มาพร้อมกับผนังหนา 3 ฟุต มีระบบปรับอากาศห้องพยาบาล ห้องอาบน้ำ ระบบกล้องวงจรปิดมูลค่า 100,000 เหรียญ ทนต่อแรงระเบิดนิวเคลียร์ได้ถึง 20 กิโลตัน ปัจจุบันถูกปรับให้เป็นอพาร์ตเมนต์กว้างขวาง 4 ห้อง แต่ละห้องมีห้องครัว พื้นที่รับประทานอาหาร ห้องนอน 2 ห้องห้องนั่งเล่นและห้องน้ำ 

บ.ในอังกฤษ เปลี่ยนโรงนาร้างให้กลายเป็นบ้านหรู สุดเพอร์เฟค

บริษัทด้านการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์เปลี่ยนโฉม "โรงนา" ร้างเก่าเก็บทรุดโทรม ให้กลายเป็นบ้านหรูมูลค่า 1.25 ล้านปอนด์ หรือราว 53 ล้านบาท

ใครจะเชื่อว่าโรงนาเก่าทรุดโทรมในหมู่บ้านเล็กๆ ที่ชื่อว่า Greywell ในมณฑล Hampshire ของประเทศอังกฤษ จะถูกพัฒนาแต่งเติมให้กลายเป็นบ้านหรูที่มีมูลค่ามหาศาลได้เพียง 2 ปี

Mark Parmenter นักพัฒนาด้านอสังหาฯ วัย 60 บอกว่า ครั้งแรกที่เห็น โรงนาอยู่ในสภาพย่ำแย่มาก แต่แม้จะเต็มไปด้วยสนิม เขากลับพบว่าโครงสร้างภายในยังแข็งแรงดีอยู่มาก

ภายในมีขนาดกว้างขวางถึง 2,750 ตารางฟุต ประกอบด้วย 4 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ 2 ห้องรับแขก และมีโรงรถ 2 ห้องด้วย นอกจากนี้ ยังตั้งอยู่ในสถานที่ที่เยี่ยมยอด มีทัศนียภาพอันงดงามของชนบทขณะที่ลอนดอนอยู่ห่างออกไปไม่ถึง 1 ชั่วโมง

สหราชอาณาจักรขาย ปราสาทขนาดเล็กน่ารักดุจบ้านในนิทาน อายุกว่า 150ปี

 อังกฤษประกาศขายปราสาทขนาดเล็กดุจบ้านในนิทานในมณฑล Warwickshire ด้วยราคาที่เค้าบอกว่า "ถูกกว่า" การซื้อแฟลตขนาดกลางซักห้องในกรุงลอนดอนเสียอีก

ปราสาทขนาดเล็กนี้มีชื่อว่า Grade II ตั้งอยู่บนที่ดินขนาด 0.61 เอเคอร์ใกล้กับหมู่บ้าน Long Compton ใน Warwickshire สร้างขึ้นโดยสถาปนิกชื่อดังชาวอังกฤษ Edward Blore ในปี 1830 ภายในมี 1 ห้องนอน น้องน้ำ ห้องนั่งเล่น ห้องรับประทานอาหาร บันไดเวียน หน้าต่างไม้สักและเตาผิงเหล็กหล่อสไตล์วิคตอเรีย

 

แต่งบ้านสไตล์ "ลอฟท์" คืออะไร ทำไมนิยมกันจัง?

ช่วงหลายๆ ปีที่ผ่านมากระแสความการตกแต่งบ้านสไตล์ลอฟท์ในบ้านเราเป็นที่นิยมเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ถามว่าอะไรคือ Loft Style ก็ประมาณเพดานสูง ปูนเปลือย คาน เสา เหล็กโผล่ ดูดิบๆ หน่อย ให้ความรู้สึกที่เป็นธรรมชาติและเรียบง่าย แต่เท่ห์ ดูดีนั่นแหละ

และนี่คือแนวการตกแต่งสไตล์ Modern Loft ที่มาพร้อมความเรียบง่ายแต่ใช้งานได้จริง กับ 6 เทคนิค ที่จะช่วยทำให้การแต่งบ้านแนวนี้ไม่ยากเลย

1. Color tone การตกแต่งใน Modern loft style มักจะเลือกโทนสีที่สื่อถึงความเป็น Masculine หรือมีความเป็นผู้ชายมาก เช่น สีเทาเข้ม สี Charcoal สีเทาอ่อน สีน้ำเงินเข้ม สีเบจ และสีน้ำตาล ซึ่งกลุ่มสีเหล่านี้จะให้ความรู้สึกแข็งแรงและดิบเท่ โดยสีน้ำตาลมักมาจากสีที่ค่อนข้างเข้มของไม้ธรรมชาติ เช่น ไม้ walnut และไม้สัก

2. Wall element เมื่อเลือกโทนสีให้กับห้องได้แล้ว การตกแต่งที่เปลี่ยน look ของห้องได้มากที่สุดนั่นก็คือการตกแต่งผนังด้วย Wallpaper เนื่องจากให้ effect ในการตกแต่งมาก ราคาไม่แพง และสามารถติดตั้งได้ง่าย ควรเลือก wallpaper ที่มีสี pattern และ texture ที่เข้ากับ Loft style เช่น wallpaper ลายไม้ฟอกสีซีด เป็นต้น นำมาติดที่ผนังด้านหนึ่งที่เห็นได้ชัดเจนของห้อง เช่น ผนังหัวเตียง และผนังหลังชุดโซฟา แค่เพียงผนังด้านเดียวของห้องก็ทำให้ mood การตกแต่งของห้องเป็นไปตาม style การตกแต่งที่ต้องการได้แล้ว

3. Built-in furniture Joinery หรือ built-in furniture เป็นสิ่งที่ต้องคำนึงในลำดับต่อมา ว่าการตกแต่งห้องนั้น เราจะออกแบบให้ชิ้นไหนเป็น Built-in furniture และตัวไหนเป็น Loose furniture บ้าง ส่วนใหญ่ ตู้เสื้อผ้าและตู้เก็บของมักจะให้เป็น Built-in furniture เนื่องจากสามารถออกแบบให้พอดีกับพื้นที่ที่มีอยู่

4. Furniture selection สิ่งที่สำคัญที่สุดสำหรับการเลือก furniture ที่เอาไว้ใช้เองภายในบ้าน นั่นก็คือการใช้งานที่ง่ายและสะดวกสบาย เนื่องจากเป็นสิ่งที่ต้องใช้งานและจับต้องในทุกๆวัน เมื่อได้ Furniture ที่น่าใช้และพอใจกับตัวเองแล้ว จึงมาเลือก Furniture ที่มี look และมี style การออกแบบที่สามารถเข้ากันได้กับการตกแต่งของเรา นั่นก็คือ "Modern loft style" ซึ่งสามารถเข้าได้กับทั้ง Furniture แบบ modern , แบบ Loft และ แบบ vintage ย้อนยุค โดยสามารถผสม furniture ทั้ง 3 style มาใช้รวมกันได้ Furniture ที่มักนำมาใช้กับการตกแต่ง style นี้มักทำด้วยไม้ หวายและหุ้มผ้า เพื่อให้นั่งและใช้งานได้สบาย และให้ look ที่เข้ากันได้ดี

5. Wall decoration เมื่อติด wallpaper สร้าง mood ให้กับห้องแล้ว ผนังที่ยังว่างๆ ยังสามารถเพิ่มของประดับตกแต่งให้เข้ากับภาพรวมของห้องได้ด้วย ยกตัวอย่างเช่น ภาพวาด abstract ชั้นวางหนังสือไม้ และกระจกรูปทรงต่างๆ แขวนตกแต่งตามผนัง ทำให้ผนังห้องที่ว่างๆ ดูเต็มขึ้นและน่าสนใจขึ้น

6. Lighting decoration ขาดไม่ได้กับแสงไฟที่จะช่วยตกแต่งจุดต่างๆ เช่น บริเวณหัวเตียง อย่างไฟ Reading light สำหรับอ่านหนังสือบนเตียง และโคมไฟ Task light สำหรับโต๊ะเขียนหนังสือ โดยเลือกโคมไฟที่มีรูปแบบและ style ให้เข้ากับห้องสไตล์ Modern Loft ซึ่งอาจจะเป็นโคมไฟโชว์หลอด Incandescent ก้านเหล็กทำสีพ่นสีดำ ให้ look ที่ดู vintage สามารถเป็นของประดับตกแต่งอีกชิ้นหนึ่งของห้องอีกด้วย


ที่มา homepro

วิวดีเวอร์ อังกฤษขายสถานีส่งสัญญาณบนหน้าผาที่ดัดแปลงเป็นบ้านสุดชิคอายุ 100 กว่าปี

 ที่เห็นนี้คือ Lloyd's Signal Station สถานีส่งสัญญาณที่ตั้งอยู่บนหน้าผาสูงชันเหนือระดับน้ำทะเล 200 ฟุตในคาบสมุทร Lizard ของคอร์นวอลล์ สหราชอาณาจักร กำลังถูกประกาศขายในราคา 750,000 ปอนด์ หรือประมาณ 32 ล้านบาท

Lloyd's Signal Station ถูกสร้างขึ้นในปีค.ศ. 1872 หรือ 145 ปีที่แล้วเพื่อเป็นสถานีส่งสัญญาณสื่อสารด้านการเดินเรือเชื่อมต่อสัญญาณโทรเลขกับลอนดอน

อาคารสีขาวได้รับดัดแปลงเมื่อปี 1994 ให้กลายเป็นบ้านที่น่าอยู่มากๆ ภายในมีห้องรับแขก ห้องทานข้าว ห้องน้ำ และมีห้องนอน 4 ห้อง ด้านบนเป็นดาดฟ้าให้คุณเห็นทัศนียภาพอันแสนงดงามอย่างเต็มตา เพราะตั้งอยู่ด้านบนสุดของหน้าผาบนคาบสมุทร Lizard ในคอร์นวอลล์ ซึ่งก็หมายความว่าคุณสามารถมองเห็นมหาสมุทรแอตแลนติกจากห้องนอนเลยทีเดียว


 

ที่มา thesun

เคล็ดไม่ลับ ประจำบ้าน

เคล็ดไม่ลับสำหรับการดูแลทำความสะอาดบ้าน ที่คุณอาจมองข้ามว่ามันใช้ได้ด้วยนะ เพราะบางทีสิ่งของใกล้ตัวก็มีประโยชน์

การรักษาเครื่องซักผ้า

เวลาที่ไม่ใช้เครื่องซักผ้า ให้เปิดฝาทิ้งไว้เสมอ ช่วยรักษาแผ่นยางที่อยู่ตรงประตูเครื่อง และช่วยให้เครื่องไม่มีกลิ่นด้วยจ้ะ

ล้างห้องน้ำด้วยโค้ก

การทำความสะอาดชักโครกให้ปราศจากคราบและดูเหมือนใหม่เสมอ คือ ให้ชักโครกกินโค้กซะบ้าง เทโค้กใส่ลงในชักโครก ปล่อยให้ชักโครกดื่มโค้กอย่างสบายใจ สักสองสามชั่วโมงคราบสกปรกจะหลุดออกหมด

น้ำตาเทียนหยดใส่พื้น

ไม่ว่าจะเป็นพื้นพรม พื้นไม้ หรือโต๊ะ ตู้ ถ้ามีน้ำตาเทียนหยดใส่ อย่ามัวแต่นั่งแกะให้เสียเวลาให้เอากระดาษทิชชู่หนา ๆ วางบนคราบน้ำตาเทียนนั้น แล้วเอาเตารีดไฟปานกลางมารีด ๆ
น้ำตาเทียนจะหลุดติดกับทิชชู่ ระวังอย่าให้ไฟแรงมากนะ เดี๋ยวไหม้

ทำให้บ้านหอม

ไม่ต้องพึ่งสเปรย์หอมกันแล้วให้เอาส้มเช้งมาปักไว้ด้วยกานพลูหล าย ๆ ดอกวางทิ้งไว้ตามจุดต่าง ๆ ในบ้าน ใส่แก้วสวย ๆ ก็จะดูดี ดูเหมือนของตกแต่ง ทีนี้กลิ่นในบ้านจะหอมหวน ตลอดเวลา ข้อควรระวังต้องหมั่นเปลี่ยนส้มซักหน่อย อย่าทิ้งไว้จนเน่า ไม่งั้นคงได้กลิ่นตรงกันข้าม

ไมโครเวฟหอมชื่นใจ

เอาชามใส่น้ำอุ่นบีบมะนาว  วางไว้ตรงกลางไมโครเวฟ เปิดเครื่องร้อนสุดห้านาที ความร้อนจากน้ำจะทำให้คราบสกปรกหลุดโดยง่ายและมะนาวจะช่วยให้กลิ่นหอมสดชื่น

ลอกสติ๊กเกอร์

สติ๊กเกอร์ที่แปะตู้เย็น คอมพิวเตอร์ หรือตามผนังอะไรก็ตาม เวลาเบื่อแล้วจะลอกทิ้งไป ให้ใช้น้ำมันก๊าดชุบผ้าหมาด ๆ เช็ดถูตรงสติ๊กเกอร์แล้วปล่อยทิ้งไว้สักพักสติ๊กเกอร์จะหลุดออกมาโดยง่าย

กระจกใส

น้ำยาเช็ดกระจก นอกจากจะมีสารเคมีแล้วยังเสียเงินแพงอีกด้วยใช้วิธีนี้จะดีกว่า ให้เอาน้ำอุ่นใส่ถัง เอาหอมใหญ่มาปอกเปลือกแล้วผ่าสี่ ใส่หอมลงไปในถัง  แค่นี้แหละ เช็ดกระจกได้ใสแจ่มแจ๋วเหมือนใหม่

บ้านกลางป่าสูงตระหง่าน โดดเด่นด้วยพลังงานแสงอาทิตย์

 บ้านหอคอยขนาดใหญ่สูงกว่า 40 ฟุต ที่ห้อมล้อมไปด้วยวิวทิวทัศน์ที่แสนสวยงาม ช่างน่าอิจฉาเจ้าของอย่าง  Mr. Dabney Tompkins และ  Mr. Alan Colley เหลือเกินที่ได้มาอาศัยอยู่ในสถานที่แสนโชคดีแห่งนี้ กับบรรกาศในยามรุ่งอรุณด้วยมุมมองถึง 360 องศา เป็นการต้อนรับเช้าวันใหม่ได้อย่างดีเยี่ยมกับภาพที่ไกลสุดลูกหูลูกตารายล้อมไปด้วยต้นไม้และใบหญ้า ครอบคุมพื้นที่ทั้งสิ้นกว่า 160 เอเคอร์ ในแถบชนบทของเมืองออริกอน (Oregon) ประเทศสหรัฐอเมริกา ซึ่งนอกเหนือจากความงดงามข้างต้นแล้ว บ้านหลังนี้ยังใช้พลังงานแสงอาทิตย์เป็นพลังงานหลักในการขับเคลื่อนบ้านทั้งหลังอีกด้วย

หลังจากที่ซื้อบ้านในพื้นที่กว่า 388 ตารางฟุตและทำการก่อสร้างเสร็จเรียบร้อยแล้ว 3 ปีให้หลัง พวกเขาทั้งสองคนได้ลาออกจากงานประจำที่ทำอยู่และย้ายเข้ามาอาศัยอย่างเต็มตัว ซึ่งทาง Dabney Tompkins เผยว่า "เริ่มแรกนั้นพวกเขาตั้งใจไว้ว่าจะมาลองอยู่เพียงแค่ 1 ปีดูก่อน เพราะบ้านหลังนี้ตั้งอยู่ห่างไกลจากตัวเมืองมากและด้วยความเป็นอยู่ที่โดดเดี่ยว อาจนำมาซึ่งบรรยากาศที่มีแต่ความเบื่อหน่าย แต่กับกันกลายเป็นว่าพอพวกเขาได้มาอยู่อาศัยจริง ด้วยสภาพความเป็นอยู่ที่แสนจะเรียบง่าย และการได้พบปะผู้คนแถวนั้น ทำให้พวกเขาเกิดความรู้สึกอบอุ่นเป็นอย่างมาก จนตอนนี้พวกเขาได้หลงรักที่นี้ไปเสียแล้ว"

ส่วนประกอบภายในบ้านก็เตรียมพร้อมไว้เป็นอย่างดีสำหรับทุกการใช้งาน ไม่ว่าจะห้องน้ำนอกตัวบ้าน หรือจะเป็นที่อาบน้ำบนดาดฟ้า และที่สำคัญที่ขาดไม่ได้เลยก็คือ อาหารการกินที่มีพร้อมอย่างครบครันจากการเพาะปลูกด้วยตนเองในสวนเกษตรอินทรีย์ เพียงพอต่อการใช้สอยและการบริโภค นับเป็นบ้านที่รวมเอาทุกสิ่งทุกอย่างเข้าไว้ด้วยกันได้อย่างลงตัว  สร้างช่วงเวลาที่แสนสงบสุขแก่ผู้อยู่อาศัยได้ดื่มด่ำไปกับการชื่นชมทัศนียภาพของธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมในโลกได้อย่างเต็มที่

ที่มา energysavingmedia